สาวป่วยหอบหืด วัย 29 ปี รอเรือข้ามฟากจากเกาะ ไปโรงพยาบาลไม่ทันเสียชีวิต ชาวบ้านเผยขอสะพานไป 16 ปีแล้ว ไม่มีความคืบหน้า
ไม่รอด! นร.ยก จยย. ปีนข้ามกำแพงหนีเรียน ผอ.สั่งลงโทษแล้ว หลังภาพว่อนเน็ต
ลูกจ้างช็อก โรงงานสั่งปิด กะทันหัน ไร้เงินชดเชย
เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 2564 บริเวณสำนักสงฆ์บ้านนอกนา บนเกาะคอเขา อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ซึ่งมีงานบำเพ็ญกุศลศพของ นางสาวอัจฉรา ถือแก้ว อายุ 29 ปี ที่ได้เสียชีวิตขณะกำลังนำส่งโรงพยาบาลตะกั่วป่า จากโรคประจำตัว คือโรคหอบหืด เมื่อตอนใกล้รุ่งของวันที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งได้สร้างความเสียใจกับพ่อแม่ ญาติ ๆ และเพื่อนฝูงเป็นอย่างยิ่ง
โดยทุกคนต่างก็พูดกันเป็นเสียงเดียวว่า หากชาวเกาะคอเขา มีสะพานข้ามไปยังแผ่นดินใหญ่ เชื่อว่าผู้เสียชีวิตจะต้องถึงมือแพทย์ให้การช่วยเหลือได้ทันเวลา แต่นี่ต้องเสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล เพราะต้องใช้เวลาหาเรือข้ามฟากนาน ที่ผ่านมาชาวบ้านได้เรียกร้องให้ภาครัฐสร้างสะพานข้ามมายังเกาะ นานกว่า 16 ปี แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า ทั้งๆที่ระยะทางห่างกันแค่ 2 กิโลเมตร ทำให้เกิดความสูญเสียขึ้น เพราะไปถึงโรงพยาบาลให้แพทย์ช่วยชีวิตไม่ทัน
พ่อของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ลูกสาวเป็นโรคหอบหืด ในคืนนั้นได้เกิดอากาศเย็นลงกะทันหัน ทำให้เกิดอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก จึงรีบโทรศัพท์แจ้ง 1669 แล้วพาขึ้นรถไปที่ท่าเรือข้ามฟากขึ้นรถกู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลตะกั่วป่าใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อไปถึงโรงพยาบาลแพทย์ก็สุดจะยื้อชีวิตลูกสาวไว้ได้ อยากวิงวอนให้ภาครัฐช่วยสร้างสะพานข้ามฝั่งเสียที ไม่อยากให้คนอื่นเกิดความสูญเสียเหมือนกันตนอีก
“ก็อยากให้มีสะพานข้าม เพราะจะได้สะดวกเวลามีสะพานไปหาหมอ มันจะสะดวก (ที่ผ่านมามีหลายศพแล้วใช่ไหม) ครับ ก็มีครับ (คนเขาไปไม่ทันใช่ไหมครับ) ครับ ไปไม่ทัน เพราะไปจากที่นี่ต้องไปลงเรือ คอยเรือ แล้วก็ข้ามไปฝั่ง แล้วก็ต้องไปรอหมออีกก็ลำบาก” พ่อของผู้เสียชีวิต กล่าว
โดยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 บ้านนอกนา ตำบลเกาะคอเขา เปิดเผยว่า ชาวเกาะคอเขาลำบากมาก โดยเฉพาะหน้ามรสุมบางวันจะข้ามไปแผ่นดินใหญ่ไม่ได้เลย เด็กนักเรียนเกือบ 10 คน จะไปโรงเรียนในตัวอำเภอก็ไปไม่ได้ ที่สำคัญคือคนเจ็บป่วยเวลาฉุกเฉินไปไม่ทันก็ตายมาหลายรายแล้ว โดยเฉพาะคนเป็นโรคหัวใจ โรคหอบหืด
ผู้ใหญ่บ้านรายนี้ยังให้ข้อมูลอีกว่า สำหรับเกาะคอเขา มี 4 หมู่บ้าน ประชากรบนเกาะประมาณ 2 พันคน เป็นพื้นที่มีศักยภาพทางด้านการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ทั้งด้านธรรมชาติและทางประวัติศาสตร์ แต่ประชาชนชาวตำบลเกาะคอเขา เสียโอกาสจากการที่ไม่มีสะพานข้ามฟาก ซึ่งระยะทางจากฝั่งมายังเกาะเพียงแค่ 2 กิโลเมตรเท่านั้นเอง