พังงา เปิดประมูลทะเบียนรถเลขสวย หมวด “กง” ครั้งที่ 2
เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมการขนส่งทางบก โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดพังงา เปิดประมูลหมายเลขทะเบียนรถหมวดอักษร “กง” “การเงินมั่งคั่ง สุขจังที่พังงา” โดยมีนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาเป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายบุญเติม เรณุมาศ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา นายสมหวัง ทองขาว หัวหน้าผู้ตรวจราชการ กรมการขนส่งทางบก นางธัญลักษณ์ ศรีมะคะ ขนส่งจังหวัดพังงา ส่วนราชการ ภาคเอกชน และสื่อมวลชน ร่วมพิธีเปิดและเป็นสักขีพยาน ณ โรงแรมเลอเอราวัณ อ.เมืองพังงา
สำหรับการเปิดประมูลหมายเลขทะเบียนสวยครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ของจังหวัดพังงา โดยครั้งแรกได้เปิดประมูลไปเมื่อปี พ.ศ.2556 มีรายได้จากการประมูลในครั้งนั้น จำนวน 28,342,998 บาท และหมายเลขที่นำมาเปิดประมูลในครั้งนี้เป็นประเภทสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน จำนวน 301 หมายเลข มีผู้ที่สนใจได้ลงทะเบียนล่วงหน้ากว่า 400 ราย และยังพบว่ามีผู้ที่สนใจต่างทยอยมาลงทะเบียนในหน้างานเพื่อเข้าร่วมการประมูลกันอย่างคับคั่ง ส่วนการประมูลจะใช้วิธีเสนอด้วยวาจา (เคาะไม้) และทางอินเตอร์เน็ต ซึ่งหมายเลขที่เป็นที่นิยมยังคงเป็นหมายเลขกลุ่มที่ 1 คือหมายเลข 4 ตัวเหมือน หมายเลขกลุ่มที่ 2 คือหมายเลขสามตัวเหมือน สองตัวเหมือน เลขคู่ และเลขตัวเดียว ตลอดจนหมายเลขกลุ่มอื่นๆ และหมายเลขที่เป็นมงคลกับผู้ประมูลเอง ต่างได้รับความสนใจในการเคาะราคาอย่างเต็มที่เพื่อให้ได้เป็นเจ้าของหมายเลขที่ตนเองต้องการ ทำให้บรรยากาศการประมูลเป็นไปอย่างคึกคักและสนุกสนาน
ส่วนภาพกราฟิกที่พิมพ์บนแผ่นป้ายทะเบียนนั้นจะเป็นรูปเขาตาปูตั้งโดดเด่นอยู่กลางทะเล เกาะสิมิลัน เรือสำเภา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์การค้าขายความมั่งคั่งร่ำรวย ความอุดมสมบูรณ์ และความสำเร็จ
นางธัญลักษณ์ ศรีมะคะ ขนส่งจังหวัดพังงา กล่าวว่า รายได้จากการประมูลทะเบียนรถเลขสวย จะนำเข้า “กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน” เพื่อเป็นเงินทุนสนับสนุนและส่งเสริมความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน และให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอันเกิดจากการใช้รถใช้ถนน สำหรับในอนาคตนี้ ทางกรมขนส่งทางบก จะนำเงินที่ได้จากการประมูลทะเบียนรถเลขสวยนำเข้ากองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน และจะพิจารณาเงินดังกล่าวคืนกลับสู่ให้จังหวัดที่ทำการประมูลในแต่ละจังหวัด ส่วนหลักเกณฑ์ที่จะคืนสู่ให้ทางจังหวัดนั้น จะพิจารณาจากหลักเกณฑ์ใดอยู่ในระหว่างการพิจารณาของทางกรมขนส่ง ซึ่งจะดูจากยอดเงินจากการประมูล หรือ ยอดการจัดเก็บเงินที่ได้