“อธิบดีกรมเจ้าท่า” สั่งให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคทั้ง 41 สาขา และสำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำ 1-8 ทั่วประเทศ ติดตามสถานการณ์พายุไซโคลน “ยาอาส” พร้อมเร่งตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ และนำเจ้าหน้าที่ รถ เรือ และอุปกรณ์ดูแลตลอด 24 ชม. พุธที่ 26 พฤษภาคม 2564 เวลา 18.56 น.
นายวิทยา ยาม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า จากประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศเตือนพายุไซโคลน “ยาอาส” (YAAS) บริเวณชายฝั่งประเทศอินเดียตอนบน หรือมีศูนย์กลางอยู่ ที่ละติจูด 20.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 87.3 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 130 กม./ชม. พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือด้วยความเร็วประมาณ 15 กม./ชม. คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณรัฐโอริสสาและรัฐกัลกัตตา ประเทศอินเดีย ในบ่ายวันนี้ (26 พ.ค.64) ส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนัก บางแห่งบริเวณ จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่
ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝน ที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสม ทั้งนี้ คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันควรงดการเดินเรือ ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
ตนได้สั่งการให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคทั้ง 41 สาขา และสำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำ 1-8 ทั่วประเทศ ติดตามสถานการณ์พายุไซโคลนยาอาสโดยเฉพาะในพื้นที่ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 3, 4 และ 5 โดยได้รายงานความคืบหน้าถึงการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยกรมเจ้าท่าขึ้นในพื้นที่พร้อมเตรียมสนธิกำลังทั้งเจ้าหน้าที่ รถ เรือ และอุปกรณ์การช่วยเหลือผู้ประภัย เพื่อออกปฏิบัติงานช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินในพื้นที่ และออกประกาศให้ระมัดระวังในการเดินเรือ ตรวจสอบความพร้อมของตัวเรือ เครื่องยนต์เรือ ตลอดจนเตรียมเครื่องมือและอุปกรณ์ประจำเรือ รวมทั้งเรือช่วยชีวิตและ/หรืออุปกรณ์ช่วยชีวิตต่าง ๆ ให้พร้อมใช้งานได้ทุกขณะ และให้สวมเสื้อชูชีพตลอดเวลาขณะอยู่ในเรือ และต้องติดตามรายงานข่าวสภาพอากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาโดยใกล้ชิดตลอดเวลา
ทั้งนี้ ให้ทุกหน่วยของกรมเจ้าท่าที่มีความพร้อม อาทิ เรือพระราชทาน เรือท้องแบน รถเคลื่อนย้าย กำลังเจ้าหน้าที่ฯ ให้เข้าช่วยเหลือพื้นที่ที่เกิดเหตุโดยทันที อีกทั้งได้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคและสาขา ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เฝ้าติดตามสถานการณ์และข้อมูลข่าวพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด สำหรับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบให้ออกประกาศแจ้งงดการเดินเรือ รวมถึงแจ้งให้เรือจอดในบริเวณที่มีกำบังคลื่นลม โดยขอให้ติดตามประกาศกรมเจ้าท่า และข่าวพยากรณ์อากาศของกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ หากประชาชนและชาวเรือพบเหตุ ความไม่ปลอดภัยทางน้ำ สามารถแจ้งได้ที่สำนักงานเจ้าท่าในพื้นที่ หรือที่สายด่วน 1199 ตลอด 24 ชม.
คุณเห็นด้วยกับข่าวนี้หรือไม่
- เห็นด้วย
0%
- ไม่เห็นด้วย
0%