เขียนวันที่
วันอาทิตย์ ที่ 05 มิถุนายน 2565 เวลา 17:34 น.
จุรินทร์ เหยียบ พิษณุโลก ประกาศ 17 ผู้สมัครชิงชัย ส.ส.ภาคเหนือตอนล่าง 7 จังหวัด โว ปชป. ยังไม่สูญพันธุ์หลังชนะเลือกตั้งซ่อม สงขลา-พังงา- ส.ก. กทม. 9 ที่นั่ง ชูอุดมการณ์ทันสมัย สู้ศึกเลือกตั้งรอบใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 5 มิ.ย. 2565 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดสัมมนาแกนนำของพรรคประชาธิปัตย์ภาคเหนือตอนล่าง ที่หอประชุมศูนย์วัฒนธรรมภาคเหนือตอนล่าง โรงแรมวังจันทร์ จ.พิษณุโลก
มีแกนนำคนสำคัญของพรรคร่วมไปด้วย ได้แก่ นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช. กระทรวงมหาดไทย นายนราพัฒน์ แก้วทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ภาคเหนือ อีกทั้งยังมี ส.ส. และอดีต ส.ส. ภาคเหนือของพรรค อาทิ นายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล อดีต ส.ส.จังหวัดสุโขทัย
ล้างอาย ปชป.สูญพันธุ์
โดยนายจุรินทร์ กล่าวว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ที่รัฐบาลจะครบเทอมราวต้นปีหน้า แต่ถ้าไม่ครบเทอม ยังไงการเลือกตั้งก็ต้องมาเร็วกว่าการเลือกตั้งทั่วไปปกติ ซึ่งเราไม่อยู่ในฐานะที่จะคาดการณ์ได้ แต่ในฐานะพรรคการเมืองก็ต้องเตรียมความพร้อมเอาไว้ จึงเป็นที่มาที่ประชาธิปัตย์ภาคเหนือตอนล่างจัดให้มีการประชุมอย่างเข้มข้น พร้อมด้วยแกนนำสำคัญของพรรคใน 7 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ซึ่ง อดีต ส.ส. ของพรรคในปี 2562 ไม่มีใครเป็นอื่น ทุกคนยังร่วมอุดมการณ์กับพรรคอย่างครบถ้วนไม่ขาดแม้แต่คนเดียว
“หลังการเลือกตั้งใหญ่คราวที่แล้ว ประชาธิปัตย์ถูกปรามาสเยอะว่าต่อไปก็สูญพันธุ์ แต่มาถึงวันนี้ 2 ปีเศษและกำลังครบ 3 ปี เดินเข้าสู่ปีที่ 4 พรรคประชาธิปัตย์ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า คำปรามาสนั้นไม่ได้มีเค้าลางของความเป็นจริง ซึ่งอย่างน้อยที่สุดจากการเลือกตั้งซ่อม 3 ครั้งที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นที่จังหวัดสงขลา ชุมพร และล่าสุดจังหวัดราชบุรี ประชาธิปัตย์ได้รับชัยชนะอย่างต่อเนื่องทั้ง 3 ครั้ง ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ว่าไม่ว่าจะเป็นภาคไหน ประชาชนก็ยังให้การต้อนรับประชาธิปัตย์ จึงเป็นที่มาที่พวกเราได้ประกาศไว้ที่จังหวัดสงขลาว่า การเลือกตั้งเที่ยวหน้า ประชาธิปัตย์ปักษ์ใต้จะคัมแบ็ค” นายจุรินทร์กล่าวตอนหนึ่ง
สำหรับการเลือกตั้งกรุงเทพมหานคร แม้เราจะได้รับเสียงสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนจำนวนไม่น้อย แต่เราไม่ได้ที่นั่ง ส.ส. เลย แม้แต่ที่นั่งเดียว ทำให้หลายคนสบประมาทเราเช่นเดียวกันว่า กรุงเทพฯ ประชาธิปัตย์จะสูญพันธุ์ แต่จากการเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ กทม. และ ส.ก.เที่ยวนี้ ก็เป็นบทพิสูจน์ว่า ประชาธิปัตย์ในกรุงเทพฯ ไม่ได้สูญพันธุ์ และคนกรุงเทพฯ ยังให้โอกาสประชาธิปัตย์อยู่ แม้ผู้ว่าฯ กทม. เราจะไม่ได้รับเลือกเพราะคะแนนเกือบทั้งหมดเทให้กับผู้ที่ได้รับการเลือกตั้ง แต่คะแนนของประชาธิปัตย์ก็มาเป็นที่ 2 ส่วน ส.ก. เราก็ได้มา 9 ที่นั่ง และยังมีคะแนนได้มาเป็นลำดับ 2 อีกหลายที่นั่ง
ดังนั้น การที่ตนมาพบกับพวกเราทุกคนในครั้งนี้ก็เพื่อมาบอกว่า พวกเรามีความมั่นใจ และภายใต้การร่วมแรงร่วมใจของพวกเราทุกคน ทั้งอดีตผู้แทนราษฎรในเขตจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ทั้งแกนนำพรรค สาขาพรรค ทั้งตัวแทนจังหวัด รวมทั้งพี่น้องสมาชิกประชาธิปัตย์ทุกคน ประชาธิปัตย์ในภาคเหนือตอนล่างของเรายังมีโอกาสที่จะได้รับเลือกตั้งมากขึ้นและสามารถครองใจประชาชนได้ในการเลือกตั้งครั้งหน้าอย่างแน่นอน
หวังกวาดเก้าอี้ ส.ส.ภาคเหนือตอนล่าง
ซึ่งจากสถิติในปี 2550 ภาคเหนือตอนล่าง 7 จังหวัด นครสวรรค์ ตาก พิษณุโลก พิจิตร สุโขทัย กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ เราเคยได้มาถึง 13 ที่นั่ง แต่การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เราเหลือที่นั่งเดียว คือ นายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ แต่ไม่ได้แปลว่าถัดจากนี้เราจะได้ 2 ไม่ได้ เราจะได้ 3 ไม่ได้ เราจะได้ 9 ที่นั่งหรือมากกว่านั้นไม่ได้ เพราะทั้งหมดขึ้นอยู่กับพวกเราทุกคนที่ต้องร่วมแรงร่วมใจ พร้อมกับเรามีข้อพิสูจน์แล้วว่าประชาชนต้อนรับประชาธิปัตย์มากขึ้น เพราะอุดมการณ์ของเราและผลงานของเรา
ซึ่ง “อุดมการณ์ ทันสมัย” นั้น ไม่ใช่อุดมการณ์ที่ทันสมัยเพราะอุดมการณ์ทันสมัยเสมอ แต่อุดมการณ์ที่แท้จริงของประชาธิปัตย์นั้น เป็นอุดมการณ์ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อุดมการณ์การทำงานเพื่อประชาชนเป็นที่ตั้งเพื่อส่วนรวมไม่ใช่ส่วนตัว และอุดมการณ์แห่งความซื่อสัตย์สุจริต ล้วนเป็นอุดมการณ์ของความเป็นประชาธิปัตย์ที่ทำให้เราพัฒนามาเป็นสถาบันทางการเมือง จนกลายเป็นสถาบันทางการเมืองที่ยั่งยืนที่สุดในประเทศไทยมาถึง 76 ปีและจะก้าวต่อไปจวบชั่วฟ้าดินสลาย
แต่อุดมการณ์อย่างเดียวไม่พอ เพราะโลกเปลี่ยนไปทุกวัน ความทันสมัยจึงมีความจำเป็นต้องเดินคู่ไป ทั้งระบบการจัดการที่ทันสมัย ระบบการสื่อสารทันสมัย ตัวบุคคลทันสมัย รวมไปถึงนโยบายที่ทันสมัย เราจึงมีทีมเศรษฐกิจทันสมัย ทีมสังคมทันสมัย ทีมเทคโนโลยีและมีอีกหลายทีม รวมทั้งการศึกษาการศึกษาทันสมัย เพื่อพาประเทศล้ำยุคไปสู่อนาคต
“อุดมการณ์ – ทันสมัย จึงเป็นสิ่งที่เป็นยุทธศาสตร์และเป็นทิศทางที่เราเดินไปข้างหน้าจนกระทั่งสามารถสร้างผลงานปรากฏให้เห็นเป็นรูปธรรมได้ชัดเจน”
ทั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ นำโดยหัวหน้าพรรคได้ทำการเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ในเขตเลือกตั้งภาคเหนือตอนล่าง 17 คน ประกอบด้วย
1.นายสุขวิชชาญ มุสิกุล
2.นายพลเดช ศรีแปงวงค์ ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดกำแพงเพชร
3.นพ.เธียรชัย สุวรรณเพ็ญ
4.นายธนิตพล ไชยนันทน์ ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดตาก
5.นายสงกรานต์ จิตสุทธิภากร
6.นายนัยศาลิน ถนอมมิตรวัฒนา
7.น.ส.สิริรักษ์ บัณฑิตศิละศักดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดนครสวรรค์
8.พล.ท.ฉลวย แย้มโพธิ์ใช้
9.นายวรวุฒิ แก้วทอง
10.นายพงษ์มนู ทองหนัก
11.น.ส.มุธิตา ทองคำนุช ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดพิษณุโลก
12.นายแพทย์ชัยณรงค์ สืบสุรีย์กุล
13.นายยุพราช บัวอินทร์
14.นายศุภกิจ คำดีผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดเพชรบูรณ์
15.นายวิรัตน์ วิริยะพงษ์
16. นายสัมพันธ์ ตั้งเบญจพล
17. นายรวม ล้นเหลือ ผู้สมัครจังหวัดสุโขทัย