เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์โควิด-19 ประจำวัน มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 3,667 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ3,200 คน มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 2,095คน จากการค้นหาเชิงรุกในชุมชน 1,105 คน จากเรือนจำและที่ต้องขัง 435 คน และมาจากต่างประเทศ32 คน ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 214,449 คนผู้หายป่วยเพิ่ม 4,948 คน ยอดรวมหายป่วยแล้ว 181,358คน อยู่ระหว่างการรักษา 31,482 คน อาการหนัก 1,343 คน ใส่เครื่องช่วยหายใจ 383 คน
ตาย 32 สะสมทะลุ 1.6 พันศพ
ศบค.ระบุอีกว่า ยังพบผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม 32 คน เป็นชาย 15 คน หญิง 17 คน อยู่ใน กทม.19คน นครปฐม สมุทรปราการ จังหวัดละ 3 คน เพชรบุรี ขอนแก่น จังหวัดละ 2 คน สมุทรสาคร ชลบุรีฉะเชิงเทรา จังหวัดละ 1 คน ทำให้มีผู้เสียชีวิตสะสม 1,609คน ขณะที่การฉีดวัคซีนวันที่ 18 มิ.ย. 263,415 โดสทำให้มียอดฉีดสะสมรวม 7,483,083 โดส
ฉีดวัคซีนแล้วยังติดเชื้อได้
ต่อมา นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ข้อมูลล่าสุดจนถึงวันที่ 18 มิ.ย.ฉีดวัคซีนไปแล้ว 7,483,083 โดส เป็นเข็มที่ 1 จำนวน 5,434,119 ราย และเข็มที่ 2 จำนวน 2,048,964ราย จากการสำรวจความต้องการฉีดวัคซีนโควิด-19ล่าสุด วันที่ 16-31 พ.ค. พบว่าทั้งกลุ่มอายุ 15-59 ปี และกลุ่ม 60 ปีขึ้นไป มีความต้องการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นอยู่ที่ประมาณร้อยละ 65-75 ขอให้มาฉีดวัคซีนช่วยชาติ เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันระดับประเทศ เปิดประเทศเมื่อทุกคนปลอดภัย ย้ำว่าแม้จะฉีดวัคซีนแล้วยังมีโอกาสติดเชื้อได้ ทุกคนยังต้องเข้มมาตรการป้องกันตนเอง สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ที่สำคัญคือพฤติกรรมส่วนบุคคลที่ดี เช่น การใช้ช้อน กลางส่วนตัว ระวังการสัมผัสบริเวณพื้นผิวต่างๆ
เปลี่ยนใจอยากฉีดมากขึ้น
ด้านสถานการณ์โควิด-19 ในเรือนจำ นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าข้อมูล ณ เวลา 16.00 น.วันที่ 18 มิ.ย. มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ 435 คน รักษาหายวันนี้ 1,228 คน มีผู้ต้องขังติดเชื้อที่ยังอยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 6,350 คน และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ภาพรวมการแพร่ระบาดในเรือนจำ/ทัณฑสถานที่เป็นเรือนจำสีขาว ไม่พบการแพร่ระบาดยังคงที่ 129 แห่ง และสีแดงพบการแพร่ระบาด 12 แห่งคงเดิม จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ เป็นการตรวจพบเชื้อจากการ SWAB หาเชื้อซ้ำในเรือนจำ/ทัณฑสถานที่เป็นเรือนจำสีแดง 426 คน และในห้องแยกกักโรคก่อนเข้าเรือนจำ/ทัณฑสถาน 9 คน แยกเป็นผู้ต้องขังเข้าใหม่จากภายนอก จากเรือนจำชั่วคราวรังสิต สังกัด เรือนจำอำเภอธัญบุรี 6 คน และเรือนจำกลางนคร-ราชสีมา เรือนจำจังหวัดกาญจนบุรี ทัณฑสถานหญิงพิษณุโลก แห่งละ 1 คน ส่วนจำนวนผู้ป่วยที่รักษาหายสะสมอยู่ที่ 28,082 คน หรือร้อยละ 80 ของจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมด
ข่าวดีผู้ป่วยรักษาหายเพิ่มขึ้น
นายอายุตม์กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะที่แนวโน้มสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อภายในเรือนจำ/ ทัณฑสถานต่อจากนี้ จะเริ่มมีตัวเลขของผู้ที่รักษาหายเพิ่มมากขึ้น เทียบจากจำนวนผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่มีกว่าร้อยละ 90 ของผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ระหว่างการรักษาทั้งหมด และภายในเดือน มิ.ย.คาดว่าจะมีเรือนจำสีแดง 5 แห่ง ที่ผู้ติดเชื้อทั้งหมดจะได้รับการรักษาหาย หากไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม คือทัณฑสถานหญิงกลาง เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เรือนจำพิเศษธนบุรี เรือนจำจังหวัดสงขลา โดยเฉพาะเรือนจำกลางเชียงใหม่ ที่คาดว่าจะหายทั้งหมดได้ในเร็วๆนี้
แรงงานเขมรดับในคลองเตย
นอกจากนี้ เวลา 08.30 น.วันเดียวกัน ร.ต.อ.ฤทธิพงศ์ ภูทอง รอง สว. (สอบสวน) สน.ท่าเรือ ไปสอบสวนเหตุผู้เสียชีวิตที่มีความเสี่ยงติดโรคโควิด-19 ตายไม่ทราบสาเหตุ ในห้องเช่าไม่มีเลขที่ กลางชุมชนคลองเตย ล็อก 6 แขวงและเขตคลองเตย กทม. ประสานแพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูรุดไปตรวจสอบ พบร่างนายโซเอง ซอต อายุ 45 ปี ชาวกัมพูชา นอนหงายอยู่ บนที่นอน สภาพไม่สวมเสื้อ นุ่งเพียงกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน สภาพศพไม่มีบาดแผล ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ เจ้าหน้าที่ร่วมกตัญญูสวมชุด PPE นำศพห่อใส่ถุงนิรภัย 3 ชั้น นำส่งแพทย์นิติเวชชันสูตรอีกครั้ง
สอบถามชาวบ้านให้ข้อมูลว่า ผู้ตายทำงานเป็นคนงานก่อสร้าง ไซต์งานปัจจุบันอยู่ที่ย่านรามคำแหง แต่ไม่ได้ไปทำงานหลายวันแล้ว เนื่องจากมีอาการไออย่างหนัก ประกอบกับมีอาการท้องเสียรุนแรง ที่สำคัญ เมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน ภรรยาผู้ตายเพิ่งตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 มีหน่วยงานนำรถมารับไปรักษาอาการเป็นที่เรียบร้อย ส่วนตัวผู้ตายยังไม่ได้คิวตรวจซ้ำ คาดว่าชนวนเหตุที่เสียชีวิตอาจเป็นเพราะโรคโควิด-19 ที่ติดจากภรรยา ด้าน ร.ต.อ.ฤทธิพงศ์เปิดเผยว่าจากนี้ทางแพทย์จะรับศพผู้ตายไปตรวจเลือดก่อนในเบื้องต้น หากพบว่าติดโควิด-19 จะรีบประสานหน่วยกู้ภัยเร่งรับศพไปบำเพ็ญกุศล แต่หากเสียชีวิตด้วยสาเหตุอื่น จะติดต่อญาติๆ ก่อนสรุปสำนวนออกเอกสารให้นำร่างไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
ภาคใต้ติดเชื้อโควิดพุ่ง
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในพื้นที่ภาคใต้ ที่ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมากลับพบผู้ติดเชื้อพุ่งจากหลายคลัสเตอร์ ที่ จ.ปัตตานี หลังจากเกิดการแพร่ระบาดในโรงงานแปรรูปอาหารทะเล 2 แห่ง คือ โรงงานผลิตอาหารปลากระป๋องรอยัลฟู้ด และโรงงานแปรรูปอาหารทะเลแพอรุณ รวมยอดผู้ติดเชื้อถึง 240 คน ยังรอผลอีกกว่าร้อยคน และเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. พบผู้ติดเชื้ออีก 70 คน ทำให้จังหวัดบูรณาการเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย รวมถึงสมาคมแพปลาปัตตานี วางมาตรการยกระดับการป้องกันโควิด-19 ในพื้นที่ท่าเทียบเรือประมงปัตตานี ต.บานา อ.เมือง โดยเตรียมใช้กฎหมายควบคุมในพื้นที่ หากพบผู้ฝ่าฝืนจะลงโทษและจับกุมโดยทันที และหากยังไม่มีความร่วมมือจากผู้ประกอบการในพื้นที่ รวมไปถึงแรงงานพ่อค้าแม่ค้าและผู้ซื้อ หรือเกิดการติดเชื้อขึ้นในพื้นที่แห่งนี้ จะปิดพื้นที่ทันที 14 วัน นอกจากนี้ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปัตตานียังมีคำสั่งให้ร้านอาหารหรือเครื่องดื่มให้จำหน่ายแบบไปกินที่บ้านเท่านั้น หากพบผู้ติดเชื้อหรือผู้สัมผัสเสี่ยงสูง ในกลุ่มบ้าน/ชุมชน ให้งดการปฏิบัติศาสนกิจที่มัสยิด และห้ามการออกดาวะฮ์อย่างเด็ดขาด การจัดกิจกรรมใดๆในแต่ละพื้นที่ให้ปฏิบัติตามที่ประกาศกำหนด คือรวมกันไม่เกิน 50 คน รวมถึงให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข หากพบผู้ฝ่าฝืนให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ยะลาคุมเข้มเหตุติดเชื้อกระจาย
ส่วน จ.ยะลา วันเดียวกันพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 42 คน อยู่ใน อ.เมืองยะลา 13 คน อ.บันนังสตา 11 คน อ.เบตง 10 คน อ.กรงปินัง 4 คน อ.ธารโต 3 คน และ อ.กาบัง 1 คน ด้านนายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผวจ.ยะลา ออกคำสั่งหลายฉบับ กำหนดพื้นที่เสี่ยงห้ามเข้าออกพื้นที่บ้านลาเตาะ บ้านย่อยบ้านลาแล หมู่ 5 ต.กาบัง อ.กาบัง และคำสั่งงดละหมาดที่มัสยิดในหมู่บ้านดังกล่าว จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย นอกจากนั้นยังมีคำสั่งห้ามเข้าออกพื้นที่หมู่บ้านบ้านบือซู หมู่ 6 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา และเตรียมเปิด รพ.สนามเพิ่มขึ้นเป็นแห่งที่ 2 ที่โรงเรียนศึกษาพิเศษเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จชต.ต.บุดี อ.เมืองยะลา
ยังเข้าออกไม่สนคำสั่งปิดพื้นที่
ขณะเดียวกัน นายธราวุธ ช่วยเกิด นอภ.เมืองยะลา จัดกำลังเจ้าหน้าที่ชุดคุ้มครอง ต.สะเตงนอก พร้อมกำลัง ชคต.ไปวางท่อซีเมนต์บนถนน ปิดเส้นทางเข้า-ออก รอยต่อระหว่างบ้านเปาะยานิ หมู่ 3 ต.สะเตงนอก กับเขตติดต่อ ซึ่งมีคำสั่ง ศบค.ยะลาปิดหมู่บ้าน เนื่องจากมีรายงานจาก สนง.สาธารณสุข จ.ยะลา ว่านักเรียนโรงเรียนสอนศาสนาในศูนย์มัรกัสยะลา หมู่ 3 บ้านเปาะยานิ ต.สะเตงนอก อ.เมืองยะลา ที่เดินทางกลับภูมิลำเนาก่อนหน้านี้ พบติดเชื้อกระจายไปหลายพื้นที่ โดย อ.กาบัง ตรวจ 5 คน ติดเชื้อทั้งหมด อ.บันนังสตา ตรวจ 4 คน พบเชื้อ 2 คน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ตรวจ 8 คน พบเชื้อ 7 คน และ จ.สุราษฎร์ธานี ตรวจหาเชื้อ 8 คน พบ 7 คน และศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอจะนะ (ศปก.อ.จะนะ) จ.สงขลา มีประกาศด่วนให้ผู้ที่สัมผัสกับนักเรียนมัรกัสยะลาในพื้นที่ อ.จะนะ ที่ติดเชื้อ 18 คน ไปรายงานตัวต่อสาธารณสุข อสม.และผู้นำท้องถิ่น แต่หลังปิดทางเข้า-ออกได้ไม่นาน เพจ “ยะลาทูเดย์” เผยแพร่คลิปวิดีโอภาพเหตุการณ์ชาวบ้านกลุ่มหนึ่งยังลักลอบเข้า-ออก พื้นที่เสี่ยงควบคุมสูงที่หมู่ที่ 3 ต.สะเตงนอก มีการรื้อทำลายท่อที่กั้นไว้ อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายแต่อย่างใด
คลัสเตอร์นักเรียนลามถึงสตูล
ด้าน นพ.บัติ ผดุงวิทย์วัฒนา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสตูล เปิดเผยว่า พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่เพิ่มขึ้น 33 คน เป็นกลุ่มนักเรียนโรงเรียนตะห์ ฟี ซุลกรุ อานมัรกัสยะลา จ.ยะลา ที่เดินทางกลับบ้านและอยู่ใน LQ จ.สตูล ทั้งหมด 33 คน เป็นชาย อายุระหว่าง 16-25 ปี อยู่ อ.เมืองสตูล 18 คน อ.ควนโดน 7 คน อ.ละงู 2 คน อ.ทุ่งหว้า 5 คน และ อ.มะนัง 1 คน ผู้ติดเชื้อ ทุกคนส่งต่อที่ รพ.สนามแล้ว ผู้ติดเชื้อในกลุ่มนี้ เดินทางเข้าในพื้นที่ 50 คน ส่งตรวจเชื้อทั้งหมด เบื้องต้นพบติดเชื้อ 4 คน และผลออกมาเพิ่มอีก 33 คน รวมคลัสเตอร์นี้ผู้ติดเชื้อทั้งหมด 37 คน
โยงแพปลาคุระบุรียังพุ่ง
ส่วนที่ จ.พังงา มีรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 27 คน ในพื้นที่อำเภอคุระบุรี เป็นแรงงานชาวเมียนมาทั้งหมด ทำให้มีผู้ป่วยสะสมรวม 177 คน คลัสเตอร์แพปลาคุระบุรี ทำให้มีการเปิด รพ.สนามในอำเภอคุระบุรี 2 แห่งและในอำเภอเมืองพังงา 1 แห่ง พร้อมกันนี้ในแต่ละอำเภอเตรียมความพร้อมเปิดโรงพยาบาลสนามอำเภอละ 1 แห่งอีกด้วย เนื่องจากยังพบผู้ติดเชื้อใน อ.ตะกั่วป่า 2 คน สำหรับคลัสเตอร์นักเรียน พบใน อ.ทับปุด และ อ.เมืองพังงา แห่งละ 1 คน อ.ตะกั่วทุ่ง 4 คน ทั้งหมดได้นำส่งโรงพยาบาลสนาม อบจ.พังงา ทั้งนี้ มีการตรวจคัดกรองเชิงรุกด้วยแรพพิด เทสต์ ทั้งในกลุ่มคนไทยและแรงงานพม่า ในชุมชนบ้านหินลาด เป็นวันที่สอง จำนวน 1,060 คน พบผลเป็นบวก 23 คน แบ่งเป็นคนไทย 4 คน และแรงงานต่างด้าว 19 คนและได้ส่งตรวจยืนยันผลอีกครั้งในห้องแล็บ รพ.ตะกั่วป่า โดยผู้ป่วยที่มีอาการจะส่งตัวไปรักษาใน รพ.ตะกั่วป่า หากไม่มีอาการจะส่งไปรักษา ใน รพ.สนามอำเภอคุระบุรี โดยขณะนี้ได้เปิด รพ.สนามเพิ่มอีก 1 แห่ง ที่โรงเรียนโชคอำนวย
เมืองคอนปิดอีกหมู่บ้าน
เมื่อ 19 มิ.ย.2564 นายวิทยา เขียวรอด นายอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ออกประกาศให้ปิดหมู่บ้านชุมชนเฉพาะบริเวณมัสยิดปากพูนใต้ หมู่ 9 ต.ปากพูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช เป็นเวลา 7 วัน ระหว่างวันที่ 19-25 มิ.ย.นี้ เนื่องจากพบผู้ป่วยโควิด-19 จากนักเรียน รร.มัรกัสยะลาและคนใกล้ชิด รวม 2 คน และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงอีกจำนวนมาก
นร.ติดโควิดกักตัวครูยันแม่ครัว
ส่วนที่โรงเรียนบ้านหนองจันทร์ ม.2 ต.ชัยเกษม อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อช่วงสายวันที่ 19 มิ.ย. สาธารณสุขอำเภอบางสะพาน ร่วมกับรพ.บางสะพาน และ รพ.สต.ชัยเกษม ลงพื้นที่คัดกรองกลุ่มผู้มีความเสี่ยงสูง หลังเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.พบเด็กชายวัย 6 ขวบ นร.ชั้น ป.1 โรงเรียนดังกล่าว ติดเชื้อโควิด-19 จากบิดา ทำให้ ผอ.โรงเรียนฯ ต้องประกาศปิดการเรียนการสอนทันทีตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย.เป็นต้นไป พร้อมเร่งตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยงสูงที่มีทั้งเพื่อนนักเรียน ครูประจำชั้น ครูผู้ปกครองรวมถึงครูประจำวิชา ตลอดจนแม่ครัวของโรงเรียน รวมทั้งหมด 25 คน รวมถึงให้ต้องกักตัว 14 วัน ขณะที่ภาพรวม จ.ประจวบคีรีขันธ์ พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มอีก 45 คน พบมากที่สุดใน อ.หัวหิน เป็นคนไทย 8 คน ชาวเมียนมา 37 คน คลัสเตอร์ใหญ่ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ มี 34 คน มาจากผู้สัมผัสเสี่ยงสูงของพนักงานในโรงงานสับปะรดกระป๋อง ที่ ต.หนองพลับ อ.หัวหิน ทำให้ยอดสะสมของการระบาดระลอกใหม่ มีผู้ป่วยสะสมอยู่ที่ 2,227 คน เสียชีวิต 5 คน รักษาหายแล้ว 1,746 คน ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคลัสเตอร์สถานบริการ มายาผับ ที่ระบาดตั้งแต่ต้นเดือน เม.ย.และคลัสเตอร์ โรงงานในพื้นที่ อ.หัวหินที่พบการแพร่ระบาดอย่างหนัก ส่วนการจัดให้บริการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกา 3,000 โดส ในกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเสี่ยง 7 โรคเรื้อรัง จังหวัดกำหนดฉีดในวันที่ 22 มิ.ย.นี้
พะเยาปิด 6 โรงเรียน อ.ภูซาง
ส่วนสถานการณ์ใน จ.พะเยา พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 13 คน ในจำนวนนี้เชื่อมโยงกับคลัสเตอร์ ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย และอยู่พื้นที่ อ.เชียงคำ-ภูซาง จ.พะเยา ทำให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพะเยามีมติห้ามประชาชนเข้าออกจากพื้นที่เพิ่มเติมอีก 1 แห่งใน อ.ภูซาง ได้แก่ บ้านดอยเทวดา หมู่ที่ 1 ต.สบบง และเพิ่มจุดตรวจคัดกรองบริเวณทางเข้าชุมชนม้ง ดอยเทวดา บ้านดอนตัน หมู่ที่ 1 ต.สบบง อ.ภูซาง จ.พะเยา ตั้งแต่วันที่ 19 มิ.ย.-2 ก.ค.2564 รวมทั้งปิดโรงเรียนใน อ.ภูซาง เพิ่มอีก 6 แห่ง อยู่ใน ต.สบบง 3 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนอนุบาลภูซาง (บ้านดอนตัน) โรงเรียนบ้านปง และโรงเรียนบ้านสบบง และใน ต.ภูซาง 3 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนบ้านฮวก โรงเรียนบ้านทุ่งติ้ว และโรงเรียนล้านนาคริสเตียน
นศ.วท.เชียงใหม่เสี่ยงเกือบร้อย
ส่วนที่ จ.เชียงใหม่ ที่กลับมาพบผู้ติดเชื้อจากติวเตอร์สถาบันกวดวิชา Learn Si’r (เลิร์น เซอร์) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อสายวันที่ 19 มิ.ย.เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เข้าตรวจคัดกรองหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ในกลุ่มนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่กว่า 80 คน ที่เป็นกลุ่มสัมผัสใกล้ชิดกับนักศึกษาชายแผนกช่างกลโรงงาน ชั้น ปวช.1 อายุ 15 ปี ที่ติดเชื้อโควิด-19 จากคลัสเตอร์ติวเตอร์ วัย 33 ปี รวมถึงปิดการเรียนการสอนจนถึงวันที่ 21 มิ.ย.นี้
เอาผิดโรงแรมดังให้จัดปาร์ตี้
ขณะที่ จ.แพร่ ตำรวจร่วมกับ สสจ.และฝ่ายปกครองเข้าตรวจสอบโรงแรมเฮือนนานาบูติค กรณีมีคลิปหลุดจากการจัดงานเลี้ยงเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.64 ที่ผ่านมาจนทำให้มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 และเสียชีวิตไปแล้ว 1 คน มอบหมายให้เทศบาลเมืองแพร่เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองแพร่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายเนื่องจากขัดคำสั่งจังหวัดแพร่ ฉบับที่ 44 ห้ามดำเนินการหรือจัดกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่โรค ห้ามการจัดกิจกรรมเป็นการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่า 15 คน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ในเบื้องต้นหลังเกิดเหตุทางโรงแรมได้ปิดให้บริการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย.-1 ก.ค.นี้ ขณะที่ภาพรวม จ.แพร่ ยังพบผู้ติดเชื้อใหม่อีก 2 คน ใน อ.หนองม่วงไข่ และ อ.ลอง
กาฬสินธุ์ป่วนติดเชื้อไม่รู้ที่มา
ที่ จ.กาฬสินธุ์ มีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่ม 9 คน อยู่ในพื้นที่ อ.เขาวง 2 ราย เป็นเด็กหญิงอายุ 3 เดือน และคุณยายวัย 82 ปี เป็นกลุ่มเสี่ยงของผู้ติดเชื้อเดิม ส่วนอีก 7 คน พบในพื้นที่ อ.คำม่วง โดย 3 คนแรกเป็นคลัสเตอร์จากแคมป์คนงานก่อสร้าง กทม. ที่เดินทางกลับภูมิลำเนา ส่วนผู้ติดเชื้ออีก 4 ราย เป็นนักการภารโรง จนท.อบต.ทุ่งคลอง อยู่ อ.สามชัย ครูสอนเด็กอนุบาล และพนักงานธนาคาร ธ.ก.ส.คำม่วง บางรายไม่แสดงอาการ และที่สำคัญทั้ง 4 คน ยังไม่ทราบสาเหตุและแหล่งที่มาของการติดเชื้อโควิด-19 เบื้องต้นในพื้นที่ อ.คำม่วง มีการปิดสถานศึกษา 2 แห่ง คือโรงเรียนเก่าเดื่อ และโรงเรียนบ้านคำพิมูล เนื่องจากพบนักการภารโรง และครูสอนเด็กอนุบาลติดเชื้อโควิด-19 รวมถึงปิดที่ทำการ อบต.ทุ่งคลอง และปิด ธ.ก.ส.คำม่วงด้วย
ดำเนินคดีหนุ่มป่วยไม่กักตัว
ขณะที่นางศิวพร ฉั่วสวัสดิ์ ผวจ.หนองบัวลำภู สั่งการให้นายอำเภอศรีบุญเรือง แจ้งความดำเนินคดีผู้ป่วยโควิด-19 รายที่ 63 เป็นชาย อายุ 35 ปี ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งจังหวัดหนองบัวลำภู ที่ให้กักตัวในบ้านพักและออกไปสังสรรค์กับเพื่อน ทำให้เกิดกลุ่มผู้เสี่ยงสูง 23 คน โดยต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท ตามมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 แต่เนื่องจากผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการรักษาในสถานพยาบาล แต่เมื่อได้รับอนุญาตให้ออกจาก รพ.และกักตัวครบ 14 วัน พนักงานสอบสวนจะได้ทำการสอบสวนต่อไป
ชลบุรีติดเพิ่มทะลุเกินร้อย
สำหรับ จ.ชลบุรี ที่กลับมาพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ ณ วันที่ 19 มิ.ย.ถึง 145 คน ในจำนวนนี้มาจากแคมป์แรงงานต่างด้าว ต.ศรีราชา อ.ศรีราชา 35 คน คลัสเตอร์ตลาดบ้านทุ่ง อ.ศรีราชา 3 คน คลัสเตอร์ชุมชนบ้านพักในซอยราษฎร์ประสิทธิ์ อ.เมืองชลบุรี 8 คน ผู้ป่วยเชื่อมโยงคลัสเตอร์ตลาดใหม่ 36 คน นอกจากนี้ ผวจ.ชลบุรีประกาศปิดลานชาวไร่ k3 ตลาดใหม่ชลบุรี หลังพบผู้ป่วยเพิ่ม และซอยราษฎร์ประสิทธิ์ เจ้าหน้าที่สั่งปิดซอยห้ามเข้าออกเพื่อกักบริเวณผู้อยู่ในซอยเป็นเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 19-25 มิ.ย.2564 ต่อมาผู้สื่อข่าวสำรวจบรรยากาศที่ชุมชนบริเวณท้ายซอยราษฎร์ประสิทธิ์ ที่ต้องปิดพื้นที่เป็นวันแรก พบเจ้าหน้าที่นำแผงเหล็กกั้นพื้นที่กักบริเวณไม่ให้เข้าออก ด้าน น.ส.รวิวรรณ พูลสวัสดิ์ อายุ 60 ปี เลขาฯ ประธานชุมชน เปิดเผยว่า จากที่มีการตรวจหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในตลาดใหม่ มีผู้ติดเชื้อ 30 คน ทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ขณะนี้รักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้ว เหลือ 17 คนส่วนใหญ่เป็นแรงงานต่างด้าว ให้กักตัวอยู่ในซอยเข้าออกไม่ได้ ซอยที่ปิดนั้นเป็นเพียงซอยย่อยที่ติดกันเพียง 2 ซอยเท่านั้น ส่วนถนนใหญ่ยังสัญจรได้ตามปกติ
ไม่เผาร่างยายหลังฉีดวัคซีน
ส่วนที่วัดโพธิ์ ต.บ้านโขด อ.เมืองชลบุรี เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 19 มิ.ย. กำหนดฌาปนกิจศพคุณยายรัตติยา มหาโสม อายุ 80 ปี ที่เสียชีวิตหลังเข้ารับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มแรกเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่ก่อนถึงกำหนดฌาปนกิจ ครอบครัวผู้ตายประกาศงดเผา นางอำภา มหาโสม อายุ 56 ปี น.ส.กานดา อรุณส่ง อายุ 33 ปี ลูกสาวและหลานคุณยายรัตติยา พร้อมด้วยนายสมชาย เล็กน้อย อายุ 45 ปี และนายชิษณุพงศ์ ไตรรัตน์รังษี อายุ 48 ปี ประธาน LGBT GROUP THAILAND เปิดเผยถึงสาเหตุระงับการเผาศพคุณยายรัตติยาว่า เพราะต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้คุณยาย ตอนนี้ประเทศไทยมีคนเสียชีวิตหลังเข้ารับการฉีดวัคซีนเกือบ 1 ร้อยคนแล้ว และพอเสียชีวิตจะอ้างว่าเป็นโรคหัวใจ โรคโน่นโรคนี่ อยากให้ออกมาให้ความรู้กับประชาชนเขาจะได้สำรวจตัวเองว่าชะลอการฉีดก่อนดีหรือไม่ เราไม่ได้บอกว่าไม่ให้ฉีด เราให้ชะลอการฉีดเพื่อจะได้ดูแลตัวเองก่อน อยากให้เคสนี้ ประเทศไทยต้องได้รับประโยชน์สูงสุดไม่ใช่ปล่อยให้ตาย แล้วให้เรื่องเงียบไป ขณะที่ น.ส.กานดา หลานผู้ตาย กล่าวเสริมด้วยว่าทุกวันนี้ยังได้ยินเสียงยายมาร้องโหยหวน เหมือนตายไปไม่มีความสุข โดยได้ยินพร้อมแม่
เดลตาโผล่เขมรอ้างมาจากไทย
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ทั่วโลกมีผู้ป่วยสะสมกว่า 178.60 ล้านคน เสียชีวิตสะสม 3.87 ล้านคน นอกจากนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าที่กัมพูชามีรายงานผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในวันเดียว 20 คน ถือว่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และยังมีรายงานการตรวจพบเชื้อโควิดสายพันธุ์เดลตา (Delta) ตรวจพบครั้งแรกในอินเดีย เป็นครั้งแรกในประเทศพบในกลุ่มผู้เดินทางทางบกจากประเทศไทย 7 คน ทางการกัมพูชาได้ออกคำเตือนให้ประชาชนระมัดระวังตนเองให้มากขึ้น ปฏิบัติตามหลักสุขอนามัย เว้นระยะห่างทางสังคม และไม่ออกจากบ้านหากไม่จำเป็น ที่ผ่านมากัมพูชาเป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 น้อยที่สุดในโลก แต่เมื่อช่วงปลายเดือน ก.พ.ที่ผ่านมาเริ่มมีการระบาดที่ส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 42,052 คน และเสียชีวิต 414 คน