ชาวตลาดเก่ากระบี่ขึ้นป้าย ‘ลุงตู่ช่วยด้วย’ ไม่เอาสะพานทางด่วน กระทบวิถีชีวิต จ่อยื่นหนังสือที่ ครม.สัญจร

ชาวตลาดเก่ากระบี่ ขึ้นป้าย ‘ลุงตู่ช่วยด้วย’ ค้านสร้างสะพานข้ามแยก กังวลกระทบวิถีชุมชน เตรียมยื่นหนังสือ ครม.สัญจร ที่กระบี่ กลางเดือนนี้

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบชาวบ้านในพื้นที่ชุมชนบ้านตลาดเก่า ถนนศรีตรัง ต.กระบี่ใหญ่ อ.เมือง จ.กระบี่ นำป้ายผ้ากว้างประมาณ 1 เมตร ยาวประมาณ 2 เมตร มีข้อความว่า เรียน นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขอให้ทบทวนโครงการสะพานข้ามแยกตลาดเก่า และแปรงบประมาณ 600 ล้านบาท ความยาว 565 เมตร เป็นการขยายถนนช่วงล่าง ซึ่งจะแก้ปัญหาการจราจรได้ดี แต่ไม่แก้ปัญหาน้ำท่วม ขอให้ใช้ทางเลี่ยงเมืองแทน และไม่กระทบต่อเศรษฐกิจชุมชน การพัฒนานำความเจริญที่แท้จริง ต้องไม่ทำลายวิถีชีวิตและเศรษฐกิจชุมชน และป้ายอื่นๆ

โดยชาวตลาดเก่าที่ไม่เอาสะพานทางด่วนนำมาติดบริเวณหน้าร้านค้าต่างๆ กว่า 10 ป้าย เพื่อคัดค้านโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 4 สาย สามแยกปลาลัง-อ.เหนือคลอง ระยะทาง 14.436 กม. ใช้งบประมาณก่อสร้าง 1,300 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ผ่านการทำประชาพิจารณ์เรียบร้อยแล้ว โดยชาวบ้านชุมชนตลาดเก่ากังวลว่าโครงการจะส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจ วิถีชีวิต และความเป็นอยู่ปัจจุบัน โดยจะรวมตัวกันเข้ายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีที่จะเดินทางมาร่วมประชุม ครม.สัญจร ระหว่างวันที่ 15-16 พฤศจิกายนนี้ ที่โรงแรมโซฟิเทล กระบี่ โภคีธรา กอล์ฟ แอนด์ สปาร์ รีสอร์ท ต.หนองทะเล อ.เมืองกระบี่

นางนฤมล ไสยวงศ์ เจ้าของร้านหมูยิ้ม ต.กระบี่ใหญ่ อ.เมืองกระบี่ กล่าวว่า โครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 4 สาย สามแยกปลาลัง-อ.เหนือคลอง เป็นโครงการของกรมทางหลวง มี ส.ส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย เสนอให้มีการก่อสร้างเพื่อแก้ไขปัญหารถติดบริเวณทางแยกไฟแดง บริเวณชุมชนบ้านตลาดเก่า ซึ่งเท่าที่ทราบถนนสายที่จะก่อสร้างนี้เป็นทางด่วนโทลเวย์ เริ่มต้นตั้งแต่สามแยกโค้งปลาลัง ผ่านชุมชนบ้านตลาดเก่าและไปสิ้นสุดก่อนถึงสนามบินกระบี่

นางนฤมลกล่าวว่า เมื่อทางด่วนโทลเวย์เกิดขึ้น สิ่งที่ได้มีอย่างเดียวคือสามารถแก้ปัญหารถติดตรงทางแยกไฟแดงได้ แต่สิ่งที่เป็นผลเสียจะตามมาอีกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะทำให้เศรษฐกิจชุมชนเสียหายอย่างหนัก เนื่องจากชาวชุมชนตลาดเก่าเป็นชุมชนขนาดเล็ก ชาวบ้านประกอบอาชีพค้าขายเป็นหลัก เนื่องจากเป็นเส้นทางผ่านไปยัง จ.พังงาและ จ.ตรัง หากมีทางด่วนโทลเวย์ขึ้นชุมชนตลาดเก่าก็จะกลายเป็นชุมชนที่อยู่แค่ใต้สะพานทางด่วน การค้าขายต้องหยุดชะงัก เพราะคนส่วนใหญ่และคนต่างจังหวัดที่สัญจรผ่านไปมาก็จะใช้ทางด่วนเป็นทางสัญจร ทำให้ผู้คนนับ 1,000 คนเดือนร้อน

“ชาวชุมชนตลาดเก่าไม่ต้องการทางด่วน แต่ไม่คัดค้านโครงการสร้างทางเลี่ยงเมืองที่ได้มีการสำรวจไปก่อนนี้แล้ว ซึ่งสามารถทำได้ทันที และแก้ปัญหารถติดได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ ยังไม่กระทบกับวิถีชีวิตของชาวชุมชนบ้านตลาดเก่าด้วย และที่สำคัญทางแยกไฟแดงชุมชนตลาดเก่า การจราจรไม่ได้ติดขัดถึงกับต้องสร้างทางลอยฟ้า ควรนำงบประมาณไปสร้างถนนที่ไปยังแหล่งท่องเที่ยวให้มีความสวยงาม ให้ปลอดภัย และเร่งทำถนนเลี่ยงเมืองแก้ปัญหารถติดจะดีกว่า” นางนฤมลกล่าว